มารู้จักคำช่วยในภาษาญี่ปุ่น 2
ก่อนหน้านี้ได้มีการอธิบายความหมายและบทบาทหน้าที่ของคำช่วยไปบ้างแล้ว วันนี้จะมาจะมาอธิบายต่อโดยเลือกคำช่วยที่สำคัญๆ ใช้บ่อยๆ มาอธิบายเพิ่มเติมให้ค่ะ
เริ่มจากคำช่วย は wa
(วะ) ซึ่งเคยอธิบายไปคร่าวๆ แล้ว วันนี้จะมาอธิบายเพิ่มเติมให้ค่ะ
- คำช่วย は wa (วะ)
ประโยค
|
หัวเรื่อง/ประธาน
|
ส่วนอธิบาย
|
เขาเป็นนักร้อง
|
เขา
|
เป็นนักร้อง
|
คุณนากามุระสอนภาษาญี่ปุ่น
|
คุณนากามุระ
|
สอนภาษาญี่ปุ่น
|
ฉันดื่มน้ำส้ม
|
ฉัน
|
ดื่มน้ำส้ม
|
แต่ในกรณีที่ประโยคที่มีความซับซ้อนบางทีหัวเรื่องอาจจะไม่ใช่ประธานของประโยคก็ได้ เช่น
ประโยค
|
หัวเรื่อง
|
ประธาน
|
ส่วนอธิบาย
|
วันนี้งานของฉันยุ่งมาก
|
วันนี้
|
งานของฉัน
|
ยุ่งมาก
|
ผู้หญิงคนนั้น
เธอเป็นดารา
|
ผู้หญิงคนนั้น
|
เธอ
|
เป็นดารา
|
ตัวอย่างประโยค
เขาเป็นนักร้อง >> เขา เป็นประธาน
彼は歌手です。
Kare wa kashu desu.
คะเระ วะ คะชุ เดส
คำศัพท์ :彼 kare = เขา (ผู้ชาย)
歌手 kashu = นักร้อง
歌手 kashu = นักร้อง
วันนี้งานของฉันยุ่งมาก>> วันนี้ เป็นหัวเรื่อง
今日は私の仕事がとても忙しいです。
Kyou wa watashi no shigoto ga totemo isogashii desu.
เคียว วะ วะตะชิ โนะ ชิโกะโตะ งะ โทะเทะโมะ
อิโซะกะซี่ เดส
คำศัพท์ : 今日 kyou = วันนี้
仕事 shigoto = งาน,ทำงาน
とても totemo = มาก
仕事 shigoto = งาน,ทำงาน
とても totemo = มาก
忙しい isogashii = ยุ่ง
ต่อมาเรามาทำความรู้จักคำช่วย を O (โอะ) กันอีกครั้งนะคะ
- คำช่วย をO (โอะ)
คำช่วย を O (โอะ) มีหน้าที่ใช้บอกว่าคำที่อยู่หน้าเป็นกรรม มาดูตัวอย่างประโยคกันค่ะ
อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน >> หนังสือพิมพ์ เป็น กรรม
毎日、新聞を読む。
mainichi shinbun o yomu
mainichi shinbun o yomu
มัยนิจิ ชิมบุง โอะ โยะมุ
คำศัพท์ : 毎日 mainichi = ทุกวัน
新聞 shinbun = หนังสือพิมพ์
読む yomu = อ่าน
คำช่วยเพิ่มเติมที่จะอธิบายถัดมาก็คือ คำช่วย が ga
(งะ)
- คำช่วย が ga (งะ)
เป็นคำช่วยอีกตัวที่มีการใช้งานบ่อยและมีหน้าที่หลากหลายมาก
หน้าที่แรก คือ ใช้บอกคำข้างหน้าว่าเป็นประธานของประโยค
ฉันอ่านหนังสือ >> ฉัน เป็นประธานของประโยค
私が本を読みます
Watashi ga hon o yomimasu
Watashi ga hon o yomimasu
วะตะชิ งะ ฮง โอะ โยะมิมัส
คำศัพท์ : 本 hon = หนังสือ
หน้าที่ที่สอง が(งะ) จะใช้ร่วมกับกริยาหรือคุณศัพท์บางตัว เพื่อใช้อธิบายลักษณะ
รูปร่างหน้าตา ความรู้สึกอารมณ์ เป็นต้น ซึ่งคำกริยาและคำคุณศัพท์ต้องใช้คำช่วย が(งะ)
เท่านั้น ซึ่งจะต้องอาศัยความจำ มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
あります
|
arimasu
|
อะริมัส
|
มี
ใช้กับสิ่งไม่มีชีวิต
|
います
|
imasu
|
อิมัส
|
มี
ใช้กับสิ่งมีชีวิต
|
わかります
|
wakarimasu
|
วะกะริมัส
|
เข้าใจ
|
すきです
|
suki
desu
|
ซุกิ
เดส
|
ชอบ
|
きらいです
|
kirai
desu
|
คิไร
เดส
|
เกลียด
|
じょうずです
|
jouzu
desu
|
โจซุ
เดส
|
เก่ง
|
へたです
|
heta
desu
|
เฮะตะ
เดส
|
ไม่เก่ง
|
ほしいです
|
hoshii
desu
|
โฮะชี
เดส
|
อยากได้
|
ข้อสังเกต
ถ้าเห็นคำอ่านตัวอักษรโรมะจิตรงคำลงท้าย คำว่า desu เดะซุ และ masu มะซุ คนญี่ปุ่นมักจะออกเสียงรวบเป็น เดส กับ มัส
แต่ก็มีบางครั้งที่ออกเสียงเดะซุ / มะซุ ก็มีค่ะ
ทีนี้เรามาดูตัวอย่างประโยคกันดีกวาจะได้เข้าใจมากขึ้น
ชอบอาหารไทย >> ใช้ร่วมกับคำว่า suki desu
タイ料理がすきです
Thai ryouri ga suki desu
Thai ryouri ga suki desu
ไทย เรียวริ งะ ซุกิ เดส
คำศัพท์ : タイ料理 Thai ryouri = อาหารไทย
ต่อไปเรามาดูหน้าที่สามของคำช่วย が ga (งะ) กันต่อค่ะ
หน้าที่นี้เป็นการใช้บ่งชี้คำนาม
ที่จะมีคุณศัพท์ขยายดูด้านหลัง เช่น อากาศดี (อากาศเป็นคำนาม ส่วน ดี
เป็นคุณศัพท์ที่ขยายอากาศ) เราใช้คำช่วย が(งะ) บ่งชี้ตามหลังคำว่าอากาศ
อากาศดี >> มีคำคุณศัพท์อยู่ด้านหลัง ii ดี
天気が良いです。
tennki ga ii desu
เทงคิ งะ อี่ เดส
คำศัพท์ : 天気 tenki = อากาศ
良い ii = ดี
และหน้าที่ที่สี่ คือ
เป็นคำสันธานเชื่อมประโยคที่ขัดแย้งกัน ซึ่งมีความหมายว่า “แต่”
ยกตัวอย่างเช่น
ฉันอยากไปเที่ยวแต่ไม่มีเงิน
>> ฉัน+คำช่วย(ชี้หัวเรื่อง)
+อยากเที่ยว+คำช่วย(แต่)+เงิน+คำช่วย(ชี้กรรม) +ไม่มี
私は旅行に行きたいですが、お金がありません。
Watashi wa ryokou ni ikitai desu ga okane ga arimasen.
วะตะชิ วะ เรียะโค นิ อิคิไต เดส งะ โอะคะเนะ
งะ อะริมะเซ็ง
วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ แล้วมาต่อกันคราวหน้าค่ะ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น